ตอนที่ 2 โปรโมชั่นของความรัก
ชีวิตรักก็คงเหมือนกับชีวิตการทำงาน ตอนได้งานที่ใหม่แรกๆ เราก็คิดว่าทุกอย่างที่นี่ดีกว่าที่เก่าไปเสียทุกอย่าง นั่นก็ดีนี่ก็ใช่......ทำงานไปอย่างมีความสุข แต่เมื่อผ่านช่วงเวลาหนึ่งไปแล้วทุกอย่างก็กลับมาเหมือนเดิมจากที่เคยคิดว่าจะเจอสิ่งที่ดีกว่าที่ทำงานเก่ากลับกลายมาเจอนรกขุมใหม่ที่เลวร้ายกว่าเดิมเสียอีกกับความรักนั้นแม้มันจะต่างกับการทำงานอยู่บ้าง แต่ก็เหมือนกันตรงที่ว่าทุกอย่างมีขีดจำกัดของมัน มีจุดสูงสุดและข้อจำกัดที่แต่ละคนมี (ไม่เท่ากัน) เช่นกัน
ดังนั้นจะดีที่สุดหากเราไม่หลงระเริง กับความรักที่มีมากเกินไปในวันนี้
หรือคิดน้อยใจหากรู้สึกว่า ความรักที่ได้รับนั้นน้อยเกินควร
ไม่ว่าวันนี้ความรักจะดูหวานแหววสักแค่ไหน หรือเมื่อถึงช่วงหมดโปรโมชั่นมันจะข่มขื่นเพียงใด สิ่งที่สำคัญอยู่ที่ว่าเราจะมั่นคงกับความรักได้มากน้อยแค่ไหน เพราะช่วงนี้เป็นช่วงที่บอกยากว่าตกลงเรายังรักกันอยู่หรือว่าหมดเยื่อใยกันแล้ว เป็นบรรยากาศของความอึมครึมที่ปกคลุมความรู้สึกระหว่างกันและกัน ความรู้สึกว่าห่างไกลกันเหลือกิน แม้จะอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือถึงความน่าเบื่อหน่ายความน่ารำคาญเหล่านี้อาจเกิดจากการต้องเห็นกันจนชินตาเป็นแบบเดิมอยู่ทุกวัน มันหมดลุ้นและไม่ตื่นเต้นอีกต่อไป สิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้แม้มันอาจทำให้เราเจ็บปวดบ้างก็จริงแต่มันก็ไม่ได้เป็นเครื่องบ่งบอกว่า
เราสิ้นเยื่อขาดใยกันแล้วแต่อย่างใด
มันอาจเป็นเพียงช่วงของความสับสนของหัวใจ เพราะเมื่อมาถึงจุดๆ หนึ่งที่ต่างฝ่ายต่างเรียนรู้นิสัยใจคอกันพอสมควร
เป็นไปได้ว่าลึกๆ แล้วอาจมีบ้างคนที่แต่ละคนจะคิดขึ้นมาแวบหนึ่งว่าจะไปต่อหรือจะแยกทางกันดี เรียกว่าอยู่ในช่วงรอการตัดสินใจแต่เมื่อผ่านจุดนี้ไปได้ ทุกอย่างจะกลับมามีสีสันเหมือนเดิมหรือเข้าใจกันมากขึ้นเสียด้วยซ้ำหรือถ้าหากต้องจบกันไปจริงๆ มันก็คงจะดีกว่าการคาราคาซังอยู่อย่างนี้ การพูดคุยกันด้วยเหตุและผลต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ย่อมดีกว่าการนิ่งเฉยแต่ทำร้ายใจกันตลอดเวลาแน่นอนแต่จะดีกว่าไหมถ้าเราจะหมั่นเติมเต็มให้กัน ก่อนที่โปรโมชั่นความรักจะหมดลง เพราะน้ำนิ่งในบ่อที่ไม่ได้รับการถ่ายเทหรือไหลเวียนบ้าง น้ำนั้นจะเน่าเสียได้ง่ายกว่าน้ำที่ไหลอยู่ตลอดเวลา ยิ่งเรารู้ใจตัวเอง รู้ทันความรักเร็วเท่าไหร่ ความรักเราก็จะยิ่งยืนยาวยิ่งขึ้นเท่านั้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น